ซินเชนโก้ ดาวรุ่งอนาคตไกลจากยูเครน
ซินเชนโก้ ดาวรุ่งอนาคตไกลจากยูเครน
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ถือเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งที่มีอนาคตไกลคนหนึ่งของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมชาติยูเครน เพราะเป็นนักเตะที่ถนัดซ้ายและเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งตำแหน่งแบ็คซ้ายและกองกลาง
โอเล็กซานเดอร์ โวโลดีมีโรวิช ซินเชนโก้ ปัจจุบันอายุ 23 ปี เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 1996 ที่เมืองราดอมมิช ประเทศยูเครน เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีมเยาวชนของทีมชักตาร์ โดเน็ตส์ก ทีมดังของประเทศยูเครน ตั้งแต่ปี 2012 เขาได้รับการพัฒนาฝีเท้าจากศูนย์เยาวชนของทีมจนกระทั่งเมื่อปี 2015 ซินเชนโก้ ได้ย้ายไปร่วมทีมเอฟซี อูฟา ทีมในลีกของประเทศรัสเซีย
ซินเชนโก้ เป็นนักเตะกองกลางที่เล่นได้ครบเครื่อง มีทักษะที่ดี จ่ายบอลได้อย่างแม่นยำและมีจุดเด่นคือการยิงประตูจากระยะไกลได้ดี
ทำให้เขาถูกจับตามองจากทีมใหญ่ๆในทวีปยุโรป และได้รับการเรียกตัวไปติดทีมชาติยูเครน โดย อันเดร เชฟเชนโก กุนซือทีมชาติยูเครน ซึ่งเป็นอดีตนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ของทีมเอซี มิลาน และ เชลซี และได้รับรางวัลลูกฟุตบอลทองคำ “บัลลงดอร์” เมื่อปี 2004 และซินเชนโก้ ก็ตอบแทนความไว้วางใจในการได้ติดทีมชาติยูเครนด้วยการยิงประตูได้ในเกมที่ชนะทีมชาติโรมาเนีย 4-3 ซึ่งประตูนี้เอง
ทำให้ ซินเชนโก้ ทำลายสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุด คือ 19 ปีที่ทำประตูให้กับทีมชาติยูเครน ซึ่งทำลายสถิติของ อังเดร เชฟเชนโก้ กุนซือของทีมนั่นเอง นอกจากนี้เขายังได้ติดทีมชาติยูเครนไปร่วมศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติของทวีปยุโรป หรือ ยูโร 2016 รอบ 24 ทีมสุดท้ายที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย
ซินเชนโก้ ดาวรุ่งอนาคตไกลจากยูเครน
ฟอร์มของ ซินเชนโก้ เป็นที่เข้าตาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงได้ทำการดึงตัว ซินเชนโก้ จากทีมเอฟซี อูฟา มาร่วมทีมเรือใบสีฟ้าด้วยค่าตัว 1.80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 72 ล้านบาท) เมื่อจบศึกยูโร 2016 แต่การที่ซินเชนโก้ จะมาเบียดแย่งตำแหน่งกองกลางตัวจริงของทีมเรือใบสีฟ้าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีกองกลางระดับซุปเปอร์สตาร์เต็มทีมในเวลานั้น
ไม่ว่าจะเป็นดาวิด ซิลบา,อิลคาย กุนโดกัน และเควิน เดอ บรอยน์ เป็นต้น ทำให้ ซินเชนโก้ ได้ถูกปล่อยตัวให้ทีมพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ทีมดังในลีกฮอลแลนด์ ยืมตัวไปเล่นให้ 1 ฤดูกาล เพื่อหาได้ลงสนามและเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากขึ้น จนกระทั้งในปี 2017 ได้กลับมาร่วมทีมเรือใบสีฟ้าอีกครั้ง
ในปี 2017 นี้เอง ซินเชนโก้ ได้ลงสนามให้กับทีมในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทน เบนฌาแมง เมนดี้ที่ได้รับบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าฉีก ต้องพักยาวหลายนัด และซินเชนโก้ ได้ผลงานได้อย่างดีเช่นเดียวกับการเล่นกองกลาง ทำให้แฟนบอลของทีมเล่นเอาเขาไปเปรียบเทียบกับ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ตำนานแบ็คซ้ายของทีมเรือใบสีฟ้าที่เคยโด่งดัง กับทีม
นอกจากนี้ ซินเชนโก้ ยังได้ใส่เสื้อหมายเลข 11 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของโคลารอฟ อีกด้วย แม้ว่าเมื่อ เบนฌาแมง เมนดี้ หายเจ็บกลับมาสู่ทีมเขาจะเป็นตัวเลือกตัวจริงในตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีมก็ตาม แต่ ซินเชนโก้ ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นตัวสำรองของทีมต่อไปด้วยความอดทนแม้ว่า เขาจะมีข่าวว่ามีสโมสรต่างๆ สนใจที่จะซื้อตัวไปร่วมทีมอย่างเช่น ทีมนาโปลี ทีมดังจากกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ก็ตาม แต่ทีมเรือใบสีฟ้าก็ไม่ได้ปล่อยตัว และซินเชนโก้ ยังได้รับการต่อสัญญาไปถึงปี 2024 อีกด้วย
ในฤดูกาลใหม่ 2020-21 นี้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ดาวรุ่งที่มีอนาคตไกลคนนี้ ยังคงอยู่ในแผนการทำทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และเชื่อว่าหากได้รับโอกาสลงสนาม เขาพร้อมที่จะลงมาทำผลงานที่ดีให้กับทีมต่อไป
ข่าวอื่น ๆ